ิ
สมัยนายพลโท เจ้าพระยาสุรวงษ์วัฒนาศักดิ์ (โต) เป็นผู้บังคับการ
ครั้นต่อมาเมื่อปี ร.ศ. ๑๐๗ ซึ่งล่วงเข้ามาในสมัยที่ นายพลโท เจ้าพระยาสุรวงษ์วัฒนศักดิ์ (โต) เป็นผู้บังคับการ ได้เพิ่มตำแหน่งนายทหารสัญญาบัตร เป็นปลัดกอง ๑ นาย แล้วจัดนักเรียนห้อง A คือห้อง ซีเนีย ขึ้นทำการตำแหน่งนายร้อยตรี เป็นผู้ช่วยควบคุมนักเรียนอีก ๑ นาย การฝึกหัดทหารราบในเวลานั้นเป็นหน้าที่ปลัดกองเป็นผู้ฝึกหัดและประจำปกครองนักเรียนเหล่านั้นด้วยกับพอประจอบกับโรงเรียนข้างด้านตะวันออกริมถนนราชินี (คืออาคารกรมแผนที่ทหารด้านหลองหลอด) ได้สร้างสำเร็จขึ้นอีกหลังหนึ่ง จึงได้จัดนักเรียนขึ้นอยู่ชั้นบน ชั้นล่างจัดเป็นห้องเรียน ๔ ห้อง กับได้เปลี่ยนแปลงจัดชั้นห้องเรียนดังนี้ คือ
ห้อง ๑ เป็นห้องชั้นสูง
ห้อง ๒ เป็นห้องชั้นรอง
ห้อง ๓ เป็นห้องชั้นต่ำ
ห้อง ๔ เป็นห้องชั้นต่ำที่สุด
และได้เพิ่มวิชาที่เรียนขึ้นในระหว่างนี้อีก คือ
วิชาช่างไม้
วิชาเค็มมิสสตรี (วิชาแปรธาตุ)
วิชาปืนใหญ่
วิชาขี่ม้า
วิชากายกรรม
วิชาสาตรากรรม
วิชาซิกแนลลิง (ธงและโคมสัญญา)
วิชาสร้างสะพานและผูกเชือก
ภายหลังได้จัดเพิ่มให้มีนายทหารสัญญาบัตร ขึ้นประจำกองอีก ๓ นาย และเลื่อนยศตำแหน่งจ่านายสิบยกระบัตร ขึ้นเป็นยศนายร้อย กับได้เปลี่ยนแปลงจัดชั้นนักเรียนใหม่เข้าหาประโยควิชา คือ
ห้องชั้น ๓ เป็นชั้นสูง
ห้องชั้น ๒ เป็นชั้นรอง
ห้องชั้น ๑ เป็นชั้นต่ำ
ห้องชั้นเล็กเป็นชั้นต่ำสุด
เพื่อให้ต้องตามวิธีจัดระเบียบการสอบไล่วิชานักเรียน
ในสมัยนี้มีนักเรียนประมาณ ๑๐๐ คนเศษ
สมัยนายพลโท พระยาสีหราชเดโชชัย เป็นผู้บังคับการ (ตอนที่ ๔)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น